คำถามที่พบบ่อย
จากที่ลูกค้าหลายๆ ท่าน มีข้อสงสัยบางอย่างคล้ายๆ กัน ทางทีมงานได้รวมรวบคำถามและคำตอบเหล่านี้ไว้ตามด้านล่างนี้ เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายและเกิดความเข้าใจที่ชัดเจนมากขึ้น
หากมีข้อสงสัยอื่นๆ สามารถแจ้งหรือติดต่อเข้ามาได้ที่ Email: admin@printerbkk.com หรือโทรสอบถามได้ที่ 092-280-8000
คำถามที่พบบ่อย
- ทราบความต้องการผู้ใช้อย่างชัดเจน
- ถ่ายเอกสาร ปริ้น สแกน และแฟกซ์ด้วยหรือไม่
- ใช้ สี-ขาวดำ หรือเฉพาะขาวดำ
- ใช้กระดาษเฉพาะ Size A4 หรือใช้ขนาดอื่นนอกจาก A4 เช่น A3 A5
- ควรทราบปริมาณการใช้งานต่อเดือนว่าอยู่ที่ประมาณกี่แผ่น เพื่อเลือกเครื่องถ่ายเอกสารได้อย่างเหมาะสม ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป
- จำนวนผู้ใช้งาน/ความเร่งรีบของงาน เพื่อเลือกความเร็วได้อย่างเหมาะสม
- เข้าตรวจเช็ค แก้อาการหลังได้รับแจ้ง ภายใน 3-4 ชม. ทำการ (กทม)
- บริการเข้าตรวจเช็คและบำรุงรักษาเป็นระยะ เช่น เดือนละ 1 ครั้ง หรือดูตามความเหมาะสม
- ฟรีค่าบริการ ฟรีหมึก ฟรีอะไหล่
- สำรองหมึก และอะไหล่ให้เพียงพออย่างเหมาะสม
- กรณีเครื่องเสีย อาการหนัก ไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้นจะมีเครื่องสำรองหรือเปลี่ยนเครื่องให้แล้วแต่ความเหมาะสม
- "เช่า" กรรมสิทธิ์จะเป็นของผู้ให้เช่า เมื่อหมดสัญญาลูกค้าจะต้องคืนเครื่องให้แก่ผู้ให้เช่า
- "เช่าซื้อ" เครื่องถ่ายเอกสารจะตกเป็นของลูกค้า เมื่อชำระครบตามตกลง เช่น 36,48,60 งวด
- "ลิสซิ่ง" ชำระเป็นรายงวด 36,48,60 งวด เมื่อครบกำหนดผู้เช่าสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อเครื่องถ่ายเอกสารนั้นเพื่อถือกรรมสิทธิ์ต่อไปหรือไม่ โดยทั่วไปจะตกลงกันไว้ก่อนว่าหากจะซื้อจะซื้อในราคาเท่าไหร่
- ทั้ง 3 แบบ จะมีข้อดีแตกต่างกัน
- "เช่า" สามารถทำได้ง่าย ระยะเวลาสั้น รายวัน รายเดือน หรือปีต่อปี ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องอะไหล่ ค่าซ่อม ใช้งานอย่างเดียว เมื่อหมดสัญญาก็คืนเครื่อง
- "เช่าซื้อ" ข้อดีคือไม่ต้องใช้เงินก้อน สามารถผ่อนชำระได้ ได้เครื่องใหม่กรรมสิทธิ์เป็นของลูกค้า สามารถใช้ไปจนกว่าเครื่องจะหมดสภาพ
- "ลิสซิ่ง" หากถึงเวลาสิ้นสุดสัญญา ลูกค้าสามารถประเมินสภาพเครื่องได้เองว่ายังใช้งานได้ดีหรือไม่หากยังสภาพดี ลูกค้าสามารถเลือกตัดสินใจซื้อได้ในราคาถูก ดีกว่าไปซื้อเครื่องใหม่หรือทำสัญญาใหม่
- ควรทำสัญญาบริการ เนื่องจากลูกค้าไม่สามารถซ่อมแซมหรือแก้ปัญหาได้เองทั้งหมด การทำสัญญาจะทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้ในระยะเวลายาวนานกว่า
- สัญญาบริการครอบคลุมถึงขนาดไหน
- ขึ้นอยู่กับข้อตกลง เช่น จ่าย 2,500 ช่างจะเข้ามาตรวจเช็คให้ฟรีกรณีเกิดปัญหาฟรีค่าแรง แต่จะไม่รวมหมึก อะไหล่
- ทำสัญญาบริการในการจ่ายรูปแบบมิเตอร์ ลูกค้าไม่ต้องซื้อหมึก อะไหล่และไม่ต้องเสียค่าซ่อมเป็นครั้ง แต่จะเสียตามจริงจากการใช้งาน เช่น เดือนนี้ใช้ไป 5,000 มิเตอร์ ก็คำนวนตามที่ตกลงกันไว้ เช่น 0.30 บาท/มิเตอร์ ก็จะเท่ากับต้องจ่าย 1,500 บาท สำหรับเดือนนี้